หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ต้นไม้ประดับ


ไทรย้อยใบแหลม


ชื่อพันธุ์ไม้                    ไทรย้อยใบแหลม
ชื่อสามัญ                     Golden Fig, Weeping Fig
ชื่อวิทยาศาสตร์            Ficus benjamina Linn.
วงศ์                             MORACEAE
ลักษณะทั่วไป       เป็นไม้ยืนต้นสูง 5 – 10 เมตร มีรากอากาศ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปรีแกมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ดอกขนาดเล็ก มีฐานรองดอก ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ผลเป็นทรงกลม เมื่อสุกสีเหลือง
การปลูก  มี 2 วิธี
              1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อประดับบริเวณสวนเพราะเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้าน สาขาที่กว้างใหญ่
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร
การขยายพันธุ์    การปักชำ การตอน การใช้เมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดีคือ การตอนและการปักช
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดอ่อน จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง จนถึงมาก ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง ดิน ชอบดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ความชื้นปานกลาง ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5: 2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-5 ครั้ง
โรค ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะมีความทนทานต่อโรคได้ดี ศัตรู เพลี้ยแป้ง (Mealy bugs)





ปาล์มขวด ( Royal palm )


ชื่อสามัญ               Royal palm
ชื่อวิทยาศาสตร์      Roystonea reqia
วงศ์                       PALMAE
ถิ่นกำเนิด                คิวบา (ปาล์มขวดเป็นต้นไม้ ประจำชาติของประเทศคิวบา)
ลักษณะโดยทั่วไป               ลักษณะทั่วไป ปาล์มขวดนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือ ตอนที่ยังเล็กอยู่จะป่องพองออกบริเวณโคนต้น แต่พอโตขึ้นอาการป่องพองนี้ก็จะไปเกิดที่กลางลำต้น โตเต็มที่ ลำต้นสูงประมาณ 20 เมตร ใบยาว 3-5 เมตร ทางใบสั้น ใบย่อยจะงอกออกจากแกนกลางใบเป็นแถว มีกาบใบสีเขียวเรียบเป็นมัน ห่อลำต้นไว้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามขอบถนนหรือปลูกในสนามหญ้าก็ได้
การขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ดเพราะว่าปาล์มขวดไม่มีหน่อ
การดูแลรักษา
แสง        ต้องการแสงแดดจัด
น้ำ           ในระยะที่กำลังเจริญเติบโตจะต้องการน้ำมาก
ดิน          ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด
ปุ๋ย          ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้ปีละ 2 ครั้ง
โรคและแมลง       ไม่ค่อยพบโรคและแมลงที่เป็นปัญหา


ชวนชม


ชื่อสามัญ                    Impala Lily Adenium
ชื่อวิทยาศาสตร์          Adenium obesum.
ตระกูล                       APOCYNACEAE
ลักษณะทั่วไป       ชวนชมเป็นพรรณไม้ยืนต้นอวบน้ำขนาดเล็กลำต้นมีความสูงประมาณ1-3เมตรลำต้นอวบน้ำผิวเปลือกสีเขียวปนขาวผิวเรียบเป็นมัน ลำต้นมียางลำต้นบิดงอไปตามจังหวะแตกกิ่งก้านสาขาน้อยรูปทรงโปร่งใบแตกออกตามปลายของกิ่งก้านใบมนรี ปลายใบมน โคนใบสอบเรียว กลางใบมีเส้นสีขาวมองได้ชัด ตัวใบแข็ง ผิวเป็นมันเรียบมีสีเขียวดอกออกตรงปลายยอดของก้านดอกเป็นรูปแตร มีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีชมพูโคนกลีบดอกมีฐานรองดอกเป็นแฉกเล็กๆ สีเขียว ดอกบานมีความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร
การปลูก การปลูกแบ่งเป็น 2 วิธี
1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน
2. การปลูกในแปลงปลูกประดับบริเวณบ้านและสวน
การขยายพันธุ์             การปักชำ การตอน
การดูแลรักษา
แสง        ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง  ดิน         ดินร่วนซุย
น้ำ           ต้องการปริมาณน้ำน้อย ทนต่อความแห้งแล้งให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง
ปุ๋ย          ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
โรคและศัตรู         ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพธรรมชาติได้ดี





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น